Last updated: 25 ส.ค. 2568 | 419 จำนวนผู้เข้าชม |
เคล็ดลับสำคัญการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาด
กลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แผนหรือกรอบที่องค์กรได้กำหนดขึ้นเพื่อกำหนดทิศทาง และการดำเนินการในการเข้าถึงตลาดเป้าหมาย และในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายที่ต้องการเพื่อที่จะบรรลุผลประกอบการทางธุรกิจ และออกแบบการดำเนินการที่จะช่วยให้เข้าถึงเป้าหมายนั้นๆ
8 เทคนิคการเขียนแผนการตลาดสุดปัง เพื่อพิชิตยอดขาย!
การตลาดเป็นหัวใจของธุรกิจทุกประเภท ซึ่งในการมีแผนการตลาดที่รอบคอบ เป็นระบบจึงสำคัญอย่างยิ่ง แผนการตลาดที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจสามารถตั้งเป้าหมาย วางกลยุทธ์ และวัดผลอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ความเข้าใจในธุรกิจ
ก่อนที่จะเริ่มเขียนแผนการตลาด จำเป็นต้องเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง ว่าธุรกิจของคุณมีขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่นั่นหมายถึงคุณต้องรู้ว่าธุรกิจของคุณมีความแตกต่างอย่างไร และมีคุณสมบัติที่แตกต่างอย่างไรจากคู่แข่ง เช่น จุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจที่จะใช้เป็นประโยชน์ในการวางแผนการตลาด
2. วิเคราะห์ภาวะตลาด
การวิเคราะห์ภาวะตลาดเป็นกระบวนการที่ธุรกิจจะสำรวจ และวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายใน และภายนอกธุรกิจเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดที่ทำธุรกิจ เพื่อการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพในการกำหนดกลยุทธ์ต่าง ๆ ในการตลาด รวมถึงการรับประกันว่าธุรกิจจะสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนและเครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์ภาวะตลาดมักจะประกอบด้วย
วิเคราะห์ SWOT
วิเคราะห์ PESTEL
3. การกำหนดเป้าหมาย
กำหนดเป้าหมายที่เป็น SMART
4. การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Target Market) เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญในการเขียนแผนการตลาด โดยจะแบ่งกลุ่มเป้าหมายออกเป็นหมวดหมู่ตามความต้องการ พฤติกรรมการซื้อ ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เพศ อายุ รายได้ ศาสนา ฯลฯ ดังนั้นการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถวางแผนและทำการตลาดได้มีประสิทธิภาพและแม่นยำยิ่งขึ้น
5. การสร้างกลยุทธ์
การสร้างกลยุทธ์ในการวางแผนการตลาดโดยอาศัยหลัก 5P ประกอบด้วย
6. การวางงบประมาณ
การวางงบประมาณในแผนการตลาดเป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องใช้ความรอบคอบ และคำนึงถึงหลายปัจจัย การมีงบประมาณที่เหมาะสมจะทำให้แผนการตลาดมีประสิทธิภาพ สามารถบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ โดยก่อนที่จะมีการกำหนดกิจกรรมทางการตลาดควรมีการตรวจสอบราคาต่างๆ และคำนวณงบประมาณที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมทางการตลาดแต่ละประเภท เช่น กล่องบรรจุภัณฑ์ โฆษณาออนไลน์ งานแสดงสินค้า และกิจกรรมโปรโมชั่น ในส่วนการจัดสรรงบประมาณต้องจัดสรรงบประมาณตามลำดับความสำคัญ โดยการตัดสินใจว่ากิจกรรมทางการตลาดประเภทไหนควรได้งบประมาณมากหรือน้อย
7. ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (Key Performance Indicators หรือ KPIs) ในแผนการตลาดเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผลสัมฤทธิ์ของแผนการตลาดว่าสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้หรือไม่ โดยตัวชี้วัดเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาแผนการตลาดในอนาคต
ตัวอย่างของตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (KPIs) ที่ใช้ในการวัดผลแผนการตลาด
8. การประเมินและปรับปรุง
หลังจากที่แผนการตลาดได้รับการนำไปปฏิบัติแล้ว ควรมีการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าและ ให้แน่ใจว่ามีการดำเนินการตามแผนการตลาดอย่างครบถ้วน และทำการปรับปรุงแผนการตลาดเพื่อความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงในสภาวะตลาดและยังสามารถเติบโตและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านบทความเกี่ยวกับ เทคนิคเพิ่มยอดขายด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับตลาดออนไลน์ คลิ๊กที่นี่
24 ส.ค. 2567
10 มิ.ย. 2564
24 ส.ค. 2567
24 ส.ค. 2567