Last updated: 16 ต.ค. 2567 | 170 จำนวนผู้เข้าชม |
CMYK และ RGB คืออะไรและมีความแตกต่างอย่างไร?
CMYK คือ ระบบสีที่ใช้ในการพิมพ์กล่อง และในอุตสาหกรรมการพิมพ์กล่องแพคเกจจิ้งระบบนี้เป็นการผสมสีแบบ “subtractive” ซึ่งเป็นการผสมสีโดยการลดความสว่างของแสง โดยระบบ CMYK นั้นย่อมาจากตัวย่อของสีหลักที่ใช้ในระบบนี้ ได้แก่ Cyan (ฟ้า), Magenta (แดง-ม่วง), Yellow (เหลือง) และ Key (Black หรือ สีดำ)
5 หลักการทำงานของ CMYK
1. Subtractive Color Mixing
ใน CMYK การผสมสีทำโดยการลบสีขาวออกจากแสง การพิมพ์เริ่มจากกระดาษสีขาว และเพิ่มหมึกของสี Cyan, Magenta, Yellow และ Black เข้าไป
2. สำหรับงานพิมพ์
ระบบ CMYK ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในเครื่องพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพิมพ์ออฟเซ็ท, เครื่องพิมพ์ดิจิทัล หรือเครื่องพิมพ์อื่นๆ
3. ความถูกต้องของสี
ในระบบ CMYK มีความสามารถในการแสดงหรือพิมพ์สีออกมาให้เป็นไปตามที่ต้องการ หรือตามที่ออกแบบไว้ โดยไม่มีความคลาดเคลื่อนจากสีต้นฉบับ เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับงานออกแบบกล่อง, งานพิมพ์กล่อง และงานที่เกี่ยวข้องกับสีทั้งหมด
4. การจัดการสี
ในระบบ CMYK เป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม, การประเมิน และการปรับปรุงการแสดงผลสีในการพิมพ์ เพื่อให้ได้สีที่ตรงตามความต้องการและสอดคล้องกับสิ่งที่เราเห็น บนจอคอมพิวเตอร์ หรือแม่กระทั่งสีต้นฉบับ
5. คุณภาพการพิมพ์
คุณภาพของการพิมพ์กล่องสามารถเปรียบเทียบได้ผ่าน DPI (Dots Per Inch)ซึ่งเป็นหน่วยที่ใช้วัดความละเอียดหรือความคมชัดของภาพ โดยเฉพาะในการเรื่องของการพิมพ์ DPI บ่งบอกถึงจำนวนจุดที่เครื่องพิมพ์สามารถพิมพ์ได้ ซึ่งยิ่ง DPI สูง ภาพที่ได้จะยิ่งมีความคมชัดและละเอียด มากขึ้น ในส่วนของการแสดงผลหน้าจอ DPI บ่งบอกถึงจำนวนจุดพิกเซลที่หน้าจอแสดงได้ การใช้ DPI ในบริบทนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับการสแกนภาพ
การประยุกต์ใช้ระบบสี CMYK
1. ออกแบบกราฟิก
นักออกแบบกราฟิกส่วนใหญ่ เวลาออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์จะเริ่มด้วยการออกแบบในระบบสี RGB และแปลงเป็น CMYK เมื่อเตรียมพิมพ์ แต่สีอาจจะเพี้ยนเวลาแปลงเป็น CMYK ดังนั้นแนะนำให้ออกแบบกล่องในระบบสี CMYK เลย
2. การพิมพ์และบรรจุภัณฑ์
ในการออกแบบบรรจุภัณฑ์กล่องครีม, การใช้ระบบสี CMYK มีความสำคัญมากเพื่อให้ได้สีที่ถูกต้องเมื่อไปถึงขั้นตอนการพิมพ์
3. ศิลปะและการถ่ายภาพ
การพิมพ์ภาพถ่ายหรืองานศิลปะก็มักใช้ระบบ CMYK เพื่อให้สีสอดคล้องกับงานศิลป์ที่สร้างขึ้น
4. การประเมินสี
การทำ Proof หรือการทดสอบพิมพ์ ก่อนการพิมพ์จริงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อตรวจ สอบว่าสีที่ได้ตรงตามที่ต้องการหรือไม่
ระบบสี CMYK เป็นระบบสีที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ และการมีความเข้าใจในระบบนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักออกแบบกราฟิก, นักพิมพ์, และบุคคลในอุตสาหกรรมพิมพ์เป็นอย่างยิ่ง
RGB ย่อมาจาก
Red (แดง), Green (เขียว), และ Blue (น้ำเงิน) ซึ่งเป็นระบบสีที่ใช้พื้นฐานของแสงสำหรับการสร้างและแสดงสีบนอุปกรณ์ที่ปล่อยแสงออกมา เช่น จอคอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ, ทีวี ฯลฯ
4 หลักการทำงานของ RGB
1. Additive Color Mixing
การผสมสีในระบบ RGB ใช้หลักการเติมสี เมื่อมีการเพิ่มแสงสีบนจอที่ดำ (หรือไม่มีแสงเลย) สีจะเริ่มต้นที่สีดำ และเพิ่มความสว่างเข้าไป เมื่อเราเพิ่มแสงสีแดง, เขียว, และน้ำเงินเข้าไปพร้อม ๆ กันที่ความเข้มสูงสุด จะได้สีขาว
2. ช่วงค่าของแต่ละสี
สำหรับการแสดงผลดิจิทัล แต่ละสีภายใน RGB มักจะมีค่าระหว่าง 0 ถึง 255 (ในรูปแบบ 8 บิต) ซึ่งแสดงถึงระดับความสว่างของสี 0 หมายถึงไม่มีแสงสีนั้นเลย ในขณะที่ 255 หมายถึงมีแสงสีนั้นเต็มที่
3. การสร้างสีผสม
สีแดง (Red) + สีเขียว (Green) = สีเหลือง (Yellow)
สีแดง (Red) + สีน้ำเงิน (Blue) = สีม่วง (Magenta)
สีเขียว (Green) + สีน้ำเงิน (Blue) = สีฟ้า (Cyan)
4. สีขาวและสีดำ
เมื่อผสมสี RGB ทั้งสามสีด้วยกันที่ความเข้มสูงสุด (255, 255, 255) จะได้สีขาวเมื่อไม่มีแสงสีใด ๆ ทั้งสิ้น (0, 0, 0) จะได้สีดำ
การประยุกต์ใช้ระบบสี RGB
1. การออกแบบ Preliminary
บางครั้ง, ดีไซน์เนอร์จะเริ่มด้วยการออกแบบในรูปแบบ RGB เนื่องจาก ภาพที่ถ่ายหรือแสดงผลบนจอคอมพิวเตอร์จะเป็นรูปแบบ RGB
2. การแปลงสี
การแปลงสีจากระบบ RGB ไปยัง CMYK เป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการเตรียมไฟล์สำหรับการพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ มักจะต้องมีการปรับแต่งสีเพื่อให้ใกล้เคียงกับผลลัพธ์ที่จะพิมพ์ออกมา
3. Digital Proofing
เมื่อทำการปรู๊ฟสีดิจิทัล (Digital Proofing) ส่วนใหญ่จะใช้จอที่เป็นระบบสี RGB ในการประเมินผลสีที่จะออกมาจากการพิมพ์
4. สื่อโฆษณาและสื่อออนไลน์
ถึงแม้ว่าสื่อพิมพ์จะใช้ระบบสี CMYK แต่สื่อโฆษณาออนไลน์ที่คิดค้น จากแคมเปญโฆษณาที่เดียวกันมักจะใช้ระบบสี RGB
ระบบสี RGB ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์ดิจิทัล เนื่องจากการประมวลผลและการแสดงผลของสีด้วยแสงทำได้ง่ายและทำให้เราสามารถเห็นสีที่สว่างและชัดเจน.
ความแตกต่างระหว่าง CMYK และ RGB
การเข้าใจความแตกต่างระหว่างระบบสี CMYK และ RGB เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในงานด้านการออกแบบกราฟิกและการผลิตสื่อ ระบบสีเหล่านี้มีวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน:
ประเภทของระบบสี
RGB : ระบบสีแบบเพิ่มเติม (Additive Color System) ใช้สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) ผสมรวมกันเพื่อสร้างสีต่าง ๆ ในต้นฉบับดิจิทัล เมื่อผสมทั้งสามสีนี้เข้าด้วยกันจะได้สีขาว
CMYK : ระบบสีแบบลบ (Subtractive Color System) ใช้ฟ้า (Cyan) สีแดง-ม่วง (Magenta) สีเหลือง(Yellow)และสีดำ (Key) ผสมรวมกันเพื่อสร้างสีต่าง ๆ สำหรับการพิมพ์ เมื่อผสมสี CMYKเข้าด้วยกันจะได้สีดำ (แต่ในการพิมพ์มากมาย การเพิ่มสีดำจริงๆ จะทำให้ได้สีดำที่ชัดขึ้น)
การใช้งานของระบบสี
RGB : จะไม่ค่อยใช้ในการทำงานด้านกราฟิกและการพิมพ์ แต่ใช้กับอุปกรณ์ที่มีแสงเช่น จอคอมพิวเตอร์,กล้องดิจิทัล และอื่นๆ
CMYK : ใช้สำหรับงานพิมพ์เช่น งานพิมพ์กล่องครีม หรือกล่องบรรจุภัณฑ์อื่นๆ และวางแผนการออกแบบที่ต้องการพิมพ์บน กระดาษ
ความแตกต่างในการแสดงสี
RGB : ครอบคลุมพื้นที่สีที่กว้างขึ้น เพราะมีความสามารถในการผสมสีจากแสง
CMYK : อาจจะจำกัดพื้นที่สีได้เนื่องจากมันขึ้นอยู่กับสีหมึกและวัสดุการพิมพ์
10 มิ.ย. 2564
24 ส.ค. 2567
24 ส.ค. 2567